กลับมาพบกันอีกครั้งกับมหกรรมมือถือ – แท็บเล็ตครั้งยิ่งใหญ่รับปี 2558 กับ Thailand Mobile Expo 2015 รอบนี้ยังคงความร้อนแรงด้วยสมาร์ทโฟน – แท็บเล็ตจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ แม้จะเปิดตัวออกมาไม่มากนัก แต่รับรองว่าแซ่บสะเด็ดน้ำ โดยเฉพาะรุ่นระดับกลาง งบประมาณ 10,000-15,000 บาท ตอนนี้สเปคแรงเร็ว ชิพประมวลผลเทคโนโลยี 64-Bit, กล้องความละเอียดสูงอย่างน้อย 8-13 เมกะพิกเซล รวมถึงกล้องหน้าสำหรับ Selfie ก็ถูกอัพเกรดให้มีความสามารถ ลูกเล่นมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้รุ่นระดับล่าง (Entry-Level) ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก จากราคาเริ่มต้นประมาณ 2 พันกว่าบาท สเปคซีพียู Quad-Core รองรับ 2 ซิม ฯลฯ เรียกว่าปีนี้ตลาดมีการแข่งขันกันดุเดือดเลยทีเดียว
วันนี้ผมมีสมาร์ทโฟน – แท็บเล็ตรุ่นน่าสนใจทุกระดับราคาจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มาแนะนำให้ชมกันครับ ทุกรุ่นสามารถทดลองเล่นเครื่องจริงภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 พร้อมรับโปรโมชั่นสุดเด็ด มาเต็มทั้งของแถม ส่วนลด ผ่อน 0% ฯลฯ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด !
Samsung
Galaxy Core Prime
รอบนี้ซัมซุงรุกหนักด้วยสมาร์ทโฟนราคากลางๆ รุ่นแรกของปีสำหรับ Galaxy Core Prime ด้วยราคาเพียง 4,990 บาท หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core รัน Android 4.4.4 ทำงานรวดเร็วทันใจ ดูวิดีโอ HD บน YouTube หรือจะลงเกมกราฟฟิคดีๆ เล่นก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังติดกล้องหน้าให้ 2 เมกะพิกเซล ใช้ถ่าย Selfie ดีกว่าเดิม มีลูกเล่นหลากหลาย รองรับ 2 ซิมการ์ด แบตเตอรี่อึดพอใช้งานเต็มวัน ลองสัมผัสตัวจริงก่อนตัดสินใจซื้อภายในงานได้เลย
Galaxy Grand Prime
เชื่อว่าส่วนใหญ่คงเห็นโฆษณาของรุ่นนี้บนทีวีแล้วกับ Galaxy Grand Prime เซลฟี่ตัวแม่ กล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูดี หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ขนาดพอดีมือครับ เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Quad-Core 64-Bit รันบน Android 4.4.4 คาดว่าจะอัพเดทเป็น Lollipop เร็ววันนี้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือยังรองรับ 4G LTE ออนไลน์แบบไม่มีสะดุด เห็นออฟชั่นเยอะขนาดนี้ขอบอกว่าในงานหาได้ในราคา 7,xxx บาทเท่านั้นเอง
Galaxy Grand Max
ชอบจอใหญ่สไตล์ Grand 2 แต่ต้องการอัพเกรดสเปคสูงขึ้น แนะนำให้ลองดูรุ่นนี้เลยกับ Galaxy Grand Max คงสไตล์เดิมหน้าจอขนาด 5.25 นิ้ว (HD) ชิพประมวลผล Snapdragon 410 (64-Bit) เร็วเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป รองรับ 4G LTE ติดกล้องความละเอียดสูง 13 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล และดีไซน์ฝาหลังโฉมใหม่ มาแบบลายข้าวหลามตัดเลยทีเดียว ส่วนของจริงรอลุ้นครับว่าจะมาปรากฏตัวในงานนี้หรือไม่
Galaxy A5
ของเด็ดประจำต้นปีจาก Samsung เปลี่ยนมุมมองใหม่ สัมผัสความหรูหราบางเฉียบในราคาสบายกระเป๋า Galaxy A5 โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู บางเพียง 6.7 มิลลิเมตร ใช้วัสดุบอดี้โลหะเกือบทั้งตัว เพิ่มความทนทาน ตอบสนองสัมผัสดีขึ้น ด้านสเปคภายในฟูลออฟชั่นทั้งหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด เหมาะกับใช้งานทุกประเภท โดยเฉพาะดูหนัง เล่นเกม ดูภาพถ่าย ชิพประมวลผล Snapdragon 410 (64-Bit) พร้อมRAM 2 GB ทำงานลื่นไหลดีครับ สามารถเพิ่มเมโมรี่การ์ด microSD สูงสุด 64 GB ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล รุ่นนี้พิเศษตรงมีลูกเล่นบีบหน้าเรียว หน้าผ่องใส ขยายดวงตาแบบเรียลไทม์ด้วยนะ ต้องลองของจริงแล้วจะบอกว่าแซ่บสุด !
Galaxy Alpha
รุ่นสุดหรูอลังของปลายปี 2557 ล่าสุดสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าเดิม ด้วยราคาถูกลงค่อนข้างมากครับ ความบางเทียบเท่า Galaxy A5 ที่ 6.7 มิลลิเมตร สามารถจับถือได้ไม่ยากเย็นนัก น้ำหนักเบาเพียง 115 กรัม กับสเปคภายในค่อนข้างสูงพอตัวกับหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 4.7 นิ้ว ชิพประมวลผล Exynos 5430 รองรับวิดีโอความละเอียด 4K สบายๆ ติดกล้อง 12 เมกะพิกเซล เซ็นเซอร์ ISOCELL ถ่ายที่มืดเยี่ยมยอดเช่นเดียวกับ Galaxy S5 ครับ รองรับ 4G LTE เสียดายเพิ่ม microSD ภายนอกไม่ได้ แต่เมโมรี่ภายในก็เยอะทีเดียว 32 GB ด้านโปรโมชั่นรอติดตามได้ ผมว่าตัวนี้แรงสะใจแน่นอน 😀
Galaxy Note 4
รุ่นเรือธงสุดฮิตประจำปี เรียกว่าความสามารถรอบตัวพร้อมปากกา Stylus สามารถเขียนหน้าจอได้ดีกว่าเดิม เหมือนพกสมุดโน้ตกับปากกาติดตัวตลอด ล่าสุดกับ Galaxy Note 4 อัพเกรดจาก Note 3 เดิมพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องวัสดุบอดี้ใช้เฟรมโลหะ เพิ่มความทนทาน สัมผัสดูดีมีราคายิ่งขึ้น ฝาหลังลายหนังสวยงาม หน้าจอถูกอัพเกรดความละเอียดเป็น 2560 x 1440 (2K) แสดงผลเนียน คมชัด สีสันเสมือนจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมา กล้องระบบ OIS ความละเอียด 16 เมกะพิกเซล รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่อง 4G LTE รันบน Android 4.4.4 (อัพเดทเป็น Lollipop อีก 1-2 เดือนข้างหน้า) และที่ขาดไม่ได้เลยคือฟีเจอร์ด้าน S-Pen ไม่ได้มีแค่จดบันทึกธรรมดา แต่ทำอะไรได้เยอะจริงๆ มีอุปกรณ์เสริมจาก Mont Blanc และ Swarovskiเอาใจสาวกอีกด้วย
Galaxy Note Edge
จะบอกว่ามีโอกาสมากทีเดียวที่จะได้สัมผัส (และเป็นเจ้าของ) Galaxy Note Edge สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Samsung ที่มาพร้อมกับหน้าจอบิดงอได้ เป็นจุดขายเด่นของรุ่นนี้จริงๆ ใครชอบเทคโนโลยีใหม่ อยากลองของแปลกรับรองว่าตื่นตาตื่นใจแน่นอน สำหรับคุณสมบัติสเปคภาพรวมเหมือนกับ Galaxy Note 4 ครับ เพียงแต่หน้าจอต่างกันเท่านั้นเอง ด้านราคาไว้รอดูกันว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลองนวัตกรรมใหม่ ลองมาเล่นของจริงภายในงานก่อนตัดสินใจได้จ้า
Galaxy Tab S 8.4
สุดยอดแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้วจาก Samsung สำหรับ Galaxy Tab S 8.4 แม้จะเปิดตัวออกมาพักใหญ่แล้ว แต่ในบรรดาแท็บเล็ต Android ด้วยกันรุ่นนี้ยังคงสเปคสูงเอาเรื่องอยู่ กับหน้าจอ Super-AMOLED ความละเอียดสูงระดับ 2K จัดว่าเป็นแท็บเล็ตที่แสดงผลสวยที่สุดในโลกเลยทีเดียว ชิพประมวลผลเร็วแรง Exynos 5420 (Octa-Core) เช่นเดียวกับ Galaxy Note 3 พร้อมRAM 3 GB ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล บอดี้บางเพียง 6.6 มิลลิเมตร น้ำหนักแค่ 298 กรัม ต้องยอมรับเลยว่าเบาจริงๆ ซอฟท์แวร์เร็วลื่น สามารถโทรออกได้แบบเดียวกับสมาร์ทโฟน ออฟชั่นเยอะขนาดนี้ ค่าตัวถูกกว่าสมาร์ทโฟน Android หลายตัวซะอีก แต่เรื่องโปรโมชั่นต้องลองติดตามก่อนงานครับ ส่วนตัวผมว่าต้องมีแถมเคสแท้เป็นอย่างน้อยล่ะ
Gear S
มาดูนาฬิกาอัจฉิรยะ หรือ Smartwatch ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ Wearable ยอดนิยมจาก Samsung กันครับ Gear S อาจจะมีขนาดใหญ่สักหน่อย แต่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส 2.0 นิ้ว รันบนระบบปฏิบัติการ Tizen สามารถใช้งานได้หลากหลายฟีเจอร์ แอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถโทรออกใช้งาน 3G รับสายได้ภายในตัว นอกจากนี้ Gear S ยังเอาใจคนชอบออกกำลังกายด้วยเซ็นเซอร์ Heart Rate, แอพฯ S Health ดูแลสุขภาพ ใส่ออกกำลังกายสบายๆ ครับ ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงไปนิดหากเทียบกับอุปกรณ์หลายตัวในตลาด ที่ 11,990 บาทครับ
Microsoft
Lumia 535
ช่วงหลัง Microsoft (หรือ Nokia เดิม) มีวินโดว์โฟนรุ่นใหม่ราคาเบาๆ น่าสนใจยิ่งขึ้นอย่าง Lumia 535 รุ่นใหม่ล่าสุด ขยายหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.0 นิ้ว แสดงผล Live Tile เต็มตายิ่งขึ้น สามารถปรับแต่งใส่พื้นหลังได้ มีแถบ Notification นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นเสริมหลากหลายจาก Microsoft เองทั้ง Maps, Office ฯลฯ ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล ทั้งด้านหน้า – หลัง มีโหมด Selfie ลูกเล่นเพียบ ! สเปคระดับ Quad-Core รันบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 อัพเกรดได้อีกยาวๆ ราคาแค่ 4 พันต้นๆ ตัดสินใจไม่ยาก
Lumia 730
รุ่นนี้มีโปรโมทออกมาบ่อยครั้งทีเดียว เน้นรูปลักษณ์สวยงาม เพรียวบาง และกล้องหน้าความคมชัดสูงเพื่อการ Selfie โดยเฉพาะ สำหรับ Lumia 730 มาพร้อมกับบอดี้ผิวเงา ขนาดกะทัดรัด หน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว แสดงผลคมชัดกำลังดี ชิพประมวลผล Quad-Core พร้อมรองรับ 2 ซิมการ์ด ติดกล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล เลนส์ไวด์ ถ่ายหมู่แบบไม่ต้องพึ่งไม้เลยทีเดียว เสียดายนิดหน่อยตรงไม่รองรับ 4G LTE แต่ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ เพียง 7 พันต้นๆ เท่านั้นเอง
Lumia 830
ตัวนี้เหมาะกับคนชอบถ่ายภาพและชื่นชอบเทคโนโลยี PureView ภายใต้บอดี้พกพาสะดวก สำหรับ Lumia 830 เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 400 รองรับ 4G LTE เต็มรูปแบบ หน้าจอคมชัด IPS HD ขนาด 5.0 นิ้ว เฟรมบอดี้โลหะรอบตัว เพิ่มความทนทาน น้ำหนักไม่มากนัก รันบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 มีแอปพลิเคชั่นเสริมต่างๆ มากมาย ด้านกล้องใช้เลนส์ Carl-Zeiss ความละเอียด 10 เมกะพิกเซล มีออฟชั่นช่วยตกแต่งภาพ – วิดีโอจาก Microsoft ให้เลือกใช้มากมาย รุ่นนี้มีเมโมรี่ภายใน 16 GB สามารถเพิ่ม microSD ได้ ส่วนของจริงลองสัมผัสในงาน #mobileexpo รอบนี้ก่อนตัดสินใจจ้า
Lumia 930
วินโดว์โฟนรุ่นเรือธงล่าสุดของ Microsoft หน้าตาภาพรวมคล้ายกับ Lumia 830 แต่มีคุณสมบัติเหนือกว่าหลายด้านทั้งหน้าจอความละเอียด FHD (ขนาด 5.0 นิ้ว), กล้องเทคโนโลยี PureView ความละเอียด 20 เมกะพิกเซล พร้อมระบบ OIS ป้องกันการสั่นไหว บอดี้บางเพียง 9.8 มิลลิเมตร พกพาไม่ยากนัก เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Snapdagon 800 เหลือเฟือบนระบบ Windows Phone ครับ ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงไปนิดนึง หากเทียบกับสมาร์ทโฟนจากค่ายอื่นๆ ที่มีสเปค-ฟีเจอร์ที่น่าสนใจกว่ามาก ยังไงลองวัดกันกับโปรโมชั่นหน้างานอีกทีนึง : )
i-mobile
IQ 1.5
รุ่นใหม่ล่าสุดของ i-mobile ราคาไม่แรงเพียง 4,xxx บาท แต่มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว สามารถดูทีวีดิจิตอลได้ในตัว ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.4.2 ติดกล้อง 12 เมกะพิกเซล แถมกล้องหน้า 8 เมกะพิกเซล รองรับ 2 ซิมการ์ด แต่แบตเตอรี่ค่อนข้างน้อยสักหน่อยเพียง 1,800 mAh รุ่นนี้ลองสัมผัสของจริงภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 มีให้เล่นแน่นอนครับ
IQ X Zeen
เป็นครั้งแรกของ i-mobile ที่นำหน้าจอ Super-AMOLED มาใช้งานบนสมาร์ทโฟนกับ IQ X Zeen กับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) แสดงผลคมชัด มุมมองกว้าง 178 องศา เหมาะกับใช้งานด้านมัลติมีเดีย ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.4.2 พร้อมสามารถดูทีวีดิจิตอลบนสมาร์ทโฟนได้เลย กล้อง 12 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,000 mAh ราคาสนนที่ 5,990 บาท ถือว่าเหมาะสมทีเดียว
IQ X Lucus
ส่งมาอีกหนึ่งรุ่นกับ IQ X Lucus โดดเด่นด้วยการรองรับ 4G LTE พร้อมการชมทีวีดิจิตอลแบบไม่ต้องต่อเน็ต หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ใช้ชิพประมวลผล Snapdragon 410 (64-Bit) รันบน Android 4.4 เมโมรี่ภายใน 16 GB ติดกล้อง 18 เมกะพิกเซล ฯลฯ ได้ข่าวว่ามีวางจำหน่ายผ่าน Operator ด้วย แต่ต้องลงติดตามครับว่ามีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ มาเสิร์ฟในงาน ด้วยราคา 6,990 บาท คิดว่าตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากนัก
IQ X Wiz
รุ่นนี้คนชอบถ่ายภาพน่าจะชื่นชอบเป็นอย่างดี IQ X Wiz มาพร้อมกับกล้องระบบ OIS ป้องกันเลนส์สั่นไหว (18 เมกะพิกเซล ) ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีเยี่ยม หน้าจอ HD ขนาด 5.5 นิ้ว ใหญ่สะใจเหมาะกับใช้งานทั่วไป ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลกำลังดี รองรับ 2 ซิมการ์ด และรันบน Android 4.4.2 เช่นเดียวกับ i-mobile รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ IQ X Wiz ยังใช้ดูทีวีดิจิตอลได้อีกด้วย โดยราคาสนนที่ประมาณ 7 พันกว่าบาทเท่านั้น
OPPO
Neo 5
น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรองรับ 4G LTE ราคาประหยัดที่สุดในตลาดรุ่นนึง OPPO Neo 5 มาพร้อมกับชิพประมวลผล Snapdragon 400 รันบน Android 4.3 (Color OS) โดดเด่นด้านลูกเล่น Gesture หลากหลาย, ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า Selfie ความละเอียด 2 เมกะพิกเซล หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ทำให้บอดี้ไม่ใหญ่มากนักครับ อยากเป็นเจ้าของรุ่นนี้เตรียมเงินประมาณ 5,000 กว่าบาท มีโปรโมชั่นโดนๆ รออยู่แน่นอน
Find 7
อดีตรุ่นเรือธงของ OPPO เมื่อปีก่อน ยังคงน่าเล่นมากครับ หากคุณมีงบไม่มากนัก ด้วยคุณสมบัติภาพรวมลงตัว ออฟชั่นครบ ทั้งหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) หรือความละเอียด 2K สำหรับผู้ใช้ที่ชอบหน้าจอละเอียดสุดๆ ชิพประมวลผล Snapdragon 801 แรงเร็วมาตรฐาน รองรับเกม แอปพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K เต็มรูปแบบ และเทคโนโลยีการชาร์จ VOOC ไวกว่าปกติ 4 เท่า เสียบชาร์จแปบเดียวแบตเต็ม สำหรับ OPPO Find 7 มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่นครับคือ หน้าจอ FHD, RAM 2 GB/16 GB และ หน้าจอ 2K, RAM 3 GB/32 GB ซึ่งราคาจะต่างกันพอสมควรจ้า
R5
ไฮไลท์เด็ดที่ OPPO เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปหมาดๆ กับ OPPO R5 บางเฉียบที่สุดในโลกเพียง 4.85 มิลลิเมตร บอดี้เฟรม-ฝาหลังโลหะทั้งหมด ทนทานแน่นหนา แม้ตัวเครื่องจะบางมากๆ ก็ตาม หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัดเต็มตา, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 (64-Bit) ตัวใหม่ แรงเร็วกว่าเดิม รองรับแอพพลิเคชั่นทั่วไปได้ดี ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ถ่ายวิดีโอ FHD และรองรับ 4G LTE ในตัว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง O-Music ใช้งานเป็นหูฟังบลูทูธ – รีโมทควบคุม มีแถมในชุดขาย ทั้งหมดนี้สนนราคา 15,990 บาทครับ
N3
โมเดลเรือธงล่าสุดจาก OPPO ภาคต่อสมาร์ทโฟนกล้องหมุนได้รุ่นแรก OPPO N1 สำหรับ OPPO N3 โดดเด่นด้วยคุณสมบัติระดับสูง หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD), ชิพประมวลผล Snapdragon 801 รองรับ 4G LTE บอดี้เล็กลงพอสมควร พร้อมวัสดุบอดี้เฟรมโลหะ จับแล้วรู้สึกได้เลยว่าทนทานกว่าเดิม ติดกล้องความละเอียด 16 เมกะพิกเซล สามารถหมุนได้ 206 องศาแบบอัตโนมัติ (ควบคุมผ่าน O-Touch, สัมผัสหน้าจอ หรือรีโมท O-Click) ออฟชั่นจัดหนัก โหมดถ่ายภาพ Ultra HD 64 เมกะพิกเซล รวมถึง Auto-Panorama สุดยอดจริงจัง แม้ราคาจะสูงนิดนึง แต่เทียบกับฟีเจอร์ต่างๆ แล้ว OPPO N3 น่าจะทำให้คุณชื่นชอบไม่ยาก !
LG
L bello
แอนดรอยด์รุ่นประหยัดจาก LG ออกแบบคล้าย LG G3 ย่อส่วนแบบกะทัดรัด สเปคอยู่ในระดับกลางๆ ครับ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ชิพประมวลผล Quad-Core , รองรับ 2 ซิมการ์ด รันบน Android 4.4.2 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส LG UI ใช้งานไม่ยากนัก ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล วิดีโอ HD ดูทีวีออนไลน์สบายๆ บนรุ่นนี้ครับ ด้านราคาสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ประมาณ 6 พันปลายๆ ขอบอกสีทองสวยสุดๆ
G3 Stylus
เพิ่มเงินอีกหน่อยจะได้สมาร์ทโฟนจอยักษ์จาก LG มาพร้อมกับปากกา Stylus สำหรับการจดบันทึกผ่านแอปพลิเคชั่น LG G3 Stylus หน้าจอขนาดเบิ้ม 5.5 นิ้ว แสดงผลเต็มตา ตัวหนังสือใหญ่สะใจ, ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล ถ่ายวิดีโอ FHD มีออฟชั่นช่วยการถ่ายภาพ Selfie อีกด้วย แบตเตอรี่ 3,000 mAh ส่วนตัวคิดว่าอึดครับ บอดี้ดีไซน์คล้าย LG G3 รุ่นใหญ่ ด้านราคาประมาณ 8 พันกว่าบาท
G3
เรือธงยอดนิยมของ LG สร้างปรากฏการณ์ทั่วโลกด้วยจุดขายสารพัดอย่าง ตั้งแต่หน้าจอ 2K ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว, กล้อง OIS ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล พร้อมระบบ Laser-Focus โฟกัสไว ถ่ายที่มืดเยี่ยม ชิพประมวลผล Snapdragon 801 แรงเร็วรองรับคอนเทนท์ระดับ 4K รองรับ 4G LTE, แบตเตอรี่อึดพอตัว นอกจากนี้ล่าสุดยังอัพเดทเป็น Android 5.0 (Lollipop) ได้เป็นโมเดลแรกๆ อีกต่างหาก สำหรับในไทยวางจำหน่ายรุ่น RAM 2 GB / 16 GB บอกได้เลยว่าในงานนี้โปรโมชั่นโหดแน่นอน
G Flex 2
แอบลุ้นเหมือนกันว่า LG จะเอาสมาร์ทโฟนจอโค้งรุ่นล่าสุดอย่าง G Flex 2 มาโชว์ในงานหรือไม่ ? รุ่นนี้ต่อยอดนวัตกรรมเดิมด้วยหน้าจอ P-OLED ขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด ขณะที่ดีไซน์บอดี้โค้งช่วยให้การสัมผัสเข้ามือมากขึ้น รวมถึงการแนบหูโทร อีกหนึ่งไฮไลท์คือใช้ชิพประมวลผล Snapdragon 810 รุ่นแรก (64-Bit) แรงสะใจ ติดกล้อง OIS ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล เช่นเดียวกับ LG G3 รันบน Android 5.0 Lollipop เวอร์ชั่นล่าสุด คาดว่าราคาเปิดตัวจะใกล้เคียงกับโมเดลแรกครับ
LG G TABLET 8.0 4G LTE
อีกหนึ่งแท็บเล็ตสเปคดี LG G TABLET 8.0 4G LTE วางจำหน่ายมาสักพักนึงแล้ว กับราคา 7,590 บาท มาพร้อมกับสเปคหน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว (HD), ชิพประมวลผล Snapdragon 400 สามารถใส่ซิมการ์ดใช้งาน 4G LTE (แต่โทรออกไม่ได้) รันบน Android 4.4.2 ครอบด้วยอินเตอร์เฟสคล้ายกับบนสมาร์ทโฟน ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 4200 mAh เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป
Sony
Xperia E3
รุ่นล่างตัวล่าสุดของ Sony อัพเกรดสเปคดีขึ้นตามสมัย ราคาเพียง 6 พันกว่าบาทเท่านั้น กับสเปคหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว แรงเร็วด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 400 รองรับ 4G LTE (และยังมีรุ่น 2 ซิมการ์ดด้วย), รันบน Android 4.4 สามารถลงแอปพลิเคชั่นเสริมต่างๆ มากมาย ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล แบตเตอรี่ 2,330 mAh รับประกันว่าใช้งานเต็มวันแน่นอน สำหรับตัวจริงสามารถไปลองเล่นในงานได้เลย มีโปรโมชั่นอีกต่างหาก
Xperia C3
เอาใจคนชอบ Selfie อีกหนึ่งรุ่นด้วยกล้องหน้าคุณภาพสูง 5 เมกะพิกเซล จาก Sony สำหรับ Xperia C3 บอดี้บางเฉียบ 7.6 มิลลิเมตร หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 400 แรงเร็วกำลังดี ดูหนังเล่นเกม HD ลื่นไหล ติดกล้องหลัก 8 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE ฟังเพลงผ่าน Walkman ภายในเครื่อง ฯลฯ หากเทียบค่าตัวของ Xperia C3 กับโมเดลอื่นๆ ถือว่าค่อนข้างถูกครับ ไม่ถึงหมื่นบาทเท่านั้นเอง
Xperia Z3 Compact
มีเพียงไม่กี่รุ่นที่จะมีบอดี้ขนาดเล็ก สามารถใช้งานมือเดียวได้ แต่คุณสมบัติสเปคแรงเร็วระดับเดียวกับ Flagship โดย Xperia Z3 Compact คือหนึ่งในนั้นครับ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.6 นิ้ว (HD), ชิพประมวลผล Snapdragon 801 – RAM 2GB, รันบน Android 4.4.2, ติดกล้องความละเอียดสูง 20.7 เมกะพิกเซล เช่นเดียวกับ Xperia Z3 ตัวหลัก รองรับ 4G LTE สามารถเพิ่ม microSD ภายนอกได้ และมีลำโพงสเตอริโอ ส่วนราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ครับ คนชอบสมาร์ทโฟนเครื่องเล็ก พริกขี้หนูไม่ควรพลาดจริงๆ
Xperia Z3
เรือธงสุดงามหยดของ Sony พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของทุกสีครับ Xperia Z3 โดดเด่นด้านดีไซน์ทรงเหลี่ยมเรียบง่าย ใช้วัสดุเฟรมบอดี้โลหะ หน้าจอ Triluminos ขนาด 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลดีเป็นอันดับต้นๆ, รองรับ 4G LTE ชิพประมวลผล Snapdragon 801 มีระบบเสียง Walkman ติดกล้องความละเอียด 20.7 เมกะพิกเซล มีโหมดให้ปรับแต่งมากมาย แต่ถ้าได้ลองเล่นแล้วจะติดใจ ทั้งหน้าจอ วัสดุ ซอฟท์แวร์ Sony ทำการบ้านมาแน่นนมาก !
Xperia Z3 Tablet Compact
นอกจากสมาร์ทโฟน Sony ยังมีไม้เด็ดอีกหนึ่งตัวคือ Xperia Z3 Tablet Compact ต้องยอมรับเลยว่าของเค้าดีจริงๆ กับความบางเพียง 6.4 มิลลิเมตร น้ำหนักแค่ 270 กรัม เบากว่าแท็บเล็ตจอ 7 นิ้วบางตัวซะอีก แต่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว (FHD) สามารถโทรออกได้ (แนะนำโทรผ่าน Bluetooth), ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE เพิ่ม microSD ภายนอกได้ ชิพประมวลผล Snapdragon 801 ฯลฯ จะบอกว่าเป็น Z3 Compact ขยายร่างขึ้นมาก็ไม่ผิด ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ถ้าชื่นชอบแท็บเล็ต Android บางเฉียบ กันน้ำ สเปคเทพ ไม่ควรพลาดจ้า
vivo
Y27
ปีก่อนแค่เรียกน้ำย่อย มาปีนี้เริ่มมีอะไรน่าสนใจขึ้นอีกกับ vivo เปิดตัวทั้งรุ่นเล็ก-กลางรับต้นปี โดย vivo Y27 เป็นหนึ่งในนั้นครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว ชิพประมวลผล Snapdragon 410 (64-Bit) แรงเร็วขึ้น พร้อมรองรับการอัพเดทเป็น Lollipop ในอนาคต บอดี้บางเฉียบเพียง 7 มิลลิเมตร เมโมรี่ภายใน 16 GB, ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล พร้อมรองรับ 4G LTE และระบบเสียง Hi-Fi เหมาะกับคนชอบฟังเพลง ลองติดตาม สัมผัสตัวจริงในงานได้เลย
Y28
เพิ่งวางจำหน่ายสดๆ ร้อนๆ เลยกับรุ่นเล็ก vivo Y27 ราคาเพียง 6,990 บาท มาพร้อมกับคุณสมบัติระดับกลาง หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว (qHD), ชิพประมวลผล Quad-Core (1.3 GHz) ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล + กล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล สำหรับ Selfie ครบวงจร รองรับ 2 ซิมการ์ด 3G ทุกเครือข่ายแบบไม่ต้องแยกซิม และแบตเตอรี่ 2,100 mAh เพียงพอการใช้งานเต็มวันพอดีเลยล่ะ
X5
รุ่นภาคต่อของ X3S สุดบางเฉียบ vivo X5 บางเฉียบเพียง 6.3 มิลลิเมตร แม้จะหนากว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย แต่วัสดุบอดี้ทนทานยิ่งขึ้นด้วยเฟรมโลหะ สามารถใส่ได้ 2 ซิมการ์ด หรือใส่ 1 ซิมพร้อม microSD รองรับ 4G LTE, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2GB แรงเร็วบน Funtouch OS 2.0 (Android 4.4.4) ทำงานลื่นไหล รองรับแอปพลิเคชั่นเสริมต่างๆ มากมาย ระบบเสียง Hi-Fi สุดยอดคุณภาพ คนชอบฟังเพลงน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ รุ่นนี้สนนราคาเพียง 12,990 บาท ถือว่าทำราคาได้โอเคทีเดียว
XShot
รุ่นนี้ส่วนตัวคิดว่าคุ้มราคาที่สุดของ vivo ด้วยคุณสมบัติระดับ Flagship แต่วางจำหน่ายด้วยราคาหมื่นกลางๆ หน้าจอ FHD ขนาด 5.2 นิ้ว แสดงผลคมชัด สีสันเป็นธรรมชาติ, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 เช่นเดียวกับ OPPO Find 7, Galaxy S5 ฯลฯ ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ระบบป้องกันการสั่นไหว (OIS) พร้อมออฟชั่นเสริมการถ่ายภาพหลากหลาย ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K, รองรับ 4G LTE ระบบเสียง Hi-Fi จุดขายเด่นของแบรนด์ vivo ตัวนี้ได้ข่าวว่ามีโปรโมชั่นสุดเด็ดในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ต้องติดตามให้ดี
XPlay 3S
รุ่นท็อปของ vivo ของปี 2014 ที่ผ่านมา เหมาะกับผู้ใช้ที่เน้น Multimedia บนสมาร์ทโฟนเป็นหลัก โดดเด่นด้วยบอดี้ Polycarbonate เฟรมโลหะ หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.0 นิ้ว ความละเอียด 2K แสดงผลเต็มตา คมชัดสุดๆ, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 + RAM 3 GB ลื่นไหลบน Funtouch OS มีลูกเล่นธีม Gesture ต่างๆ หลากหลาย ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE และแน่นอนว่ามีระบบเสียง Hi-Fi พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหลัง สุดยอดครับ รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง ลองสัมผัสตัวจริงในงานได้เลยจ้า
Acer
Liquid Z410
เผยโฉมครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2015 กับสมาร์ทโฟน Android รุ่นล่าสุดของ Acer สเปคดีตามสมัยนิยม แต่ราคาไม่แพงครับ หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 64-Bit เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป รองรับ 4G LTE กล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 2 เมกะพิกเซล ตัวนี้ลองตดตามข่าวเรื่องราคาให้ดี ดูสเปคแล้วจัดว่าโอเคทีเดียว
Liquid Z500
นี่คือรุ่นอัพเกรดของ Liquid Z5 ด้วยคุณสมบัติเร้าใจยิ่งขึ้น สำหรับ Liquid Z500 มาพร้อมกับหน้าจอกระจก Gorilla Glass HD ขนาด 5.0 นิ้ว ชิพประมวลผล Quad-Core RAM 2 GB, เมโมรี่ภายใน 16 GB ใส่ microSD ภายนอกได้, กล้อง 8 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ FHD และแบตเตอรี่ 2,000 mAh ราคาประมาณ 5 พันบาท ไม่แพงครับ ลองเล่นตัวจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย
Liquid Jade S
พบกันครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2015 เช่นกัน Liquid Jade S รุ่นอัพเกรดสเปคของ Liquid Jade ดีไซน์แปลกตา หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ใช้ชิพประมวลผล Octa-Core 64-Bit รองรับ 4G LTE กล้อง 13 เมกะพิกเซล ระบบเสียง DTS ส่วนแบตเตอรี่ 2,300 mAh อาจจะน้อยไปนิด แต่คิดว่าพอสำหรับทั้งวันแน่นอน ด้านราคา โปรโมชั่นรอติดตามช่วงใกล้งานครับ
Liquid X1
วางจำหน่ายช่วงปลายปีที่ผ่านมาสำหรับ Liquid X1 หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว แสดงผลเต็มตาเหมาะกับใช้ดูวิดีโอ ดูละครออนไลน์ เล่นเกม หรือใช้งานแอพพลิเคชั่นเสริมทั่วไป ดีไซน์บางพอตัว สามารถพกพาได้ไม่ยากนัก แรงเร็วด้วยชิพประมวลผล Octa-Core 1.7 GHz + RAM 2 GB, รันบน Android 4.4.2 กล้อง 13 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE และระบบเสียง DTS ส่วนตัวคิดว่าในงานมีโปรโมชั่นเด็ด หรือลดราคาแน่นอน !
Iconia Tab 8 W
ผู้ใช้ที่ต้องการแท็บเล็ตราคาประหยัด เอามาใช้งานเปิดดูเอกสาร ทำงาน เช็คเมล์ ลงโปรแกรมเล็กๆ น้อยๆ แนะนำ Iconia Tab 8 W ครับ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักประมาณ 300 กรัม พกพาใส่กระเป๋าได้สบาย หน้าจอ HD ขนาด 8.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core จาก Intel รันบนระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ตัวเต็ม แน่นอนว่าใช้โปรแกรมแบบเดียวกับ PC ได้ไม่มีปัญหา เพิ่ม microSD ภายนอกสูงสุด 64 GB ราคาค่าตัวก็แค่ 6 พันกว่าบาทเท่านั้นเอง
Iconia Talk S
เหมือนจะเป็นอุปกรณ์เสริมอะไรบางอย่าง แต่ Iconia Talk S คือแท็บเล็ตระดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Acer มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 7 นิ้ว แรงเร็วด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 410 (64-Bit) รองรับ 4G LTE สามารถโทรออก รับสายเหมือนสมาร์ทโฟนทุกอย่าง มีลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า รันบน Android 4.4 กล้อง 5 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,780 mAh ได้ข่าวว่าราคาไม่แพงซะด้วย รอติดตามจาก Acer ได้เลย
Asus
Zenfone 4
ไม่อยากจะบอกว่ารุ่นเล็กสุดฮิตจาก Asus ยังน่าเล่นมากครับ จากสเปคที่ยังแรงพอตัวอยู่ ออฟชั่นครบเครื่อง หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว เครื่องพอดีมือ ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ทำงานรวดเร็ว ติดกล้อง Pixelmaster 5 เมกะพิกเซล คมชัดคุณภาพดีกว่ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน รองรับ 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย ดีไซน์สวยงาม มีหลากสีสันให้เลือกใช้ ชิพประมวลผล Intel Z2520 เล่นเกมกราฟฟิคสูงบางตัวได้สบายๆ แถมเล่นวิดีโอ FHD ลื่น แรงแบบนี้ราคาแค่ 3 พันบาทเท่านั้นเอง
Zenfone 5 LTE
หลังประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายกับ Zenfone 5 รุ่นแรก แม้จะมีปัญหานิดหน่อย แต่ก็ฮิตติดลมบนไปแล้ว ทั้งนี้ หากคุณต้องการใช้งาน 4G LTE ด้วย ทาง Asus ก็มีรุ่น LTE ให้เลือกซื้อเช่นกัน บอดี้ภายนอก สเปคภาพรวมไม่ต่างกันครับ หน้าจอ IPS HD ขนาด 5.0 นิ้ว, กล้อง Pixelmaster ความละเอียด 8 เมกะพิกเซล , ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 บน Zen UI คาดว่าจะได้อัพเป็น Lollipop ก่อนกลางปีนี้ ฯลฯ ต่างกันตรงชิพประมวลผล ตัวนี้ใช้ Snapdragon 400 + RAM 2 GB และแน่นอนว่าใช้งาน 4G LTE บ้านเราได้ครับ ส่วนราคาแม้จะเปิดมาแพงช่วงแรก แต่รอติดตามในงานได้ แพงกว่าตัวชิพ Intel แค่นิดเดียว 😀
Padfone S
เป็นอีกรุ่นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยในกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน จากราคาที่ Asus จัดหนักเพียง 9,900 บาท แต่สเปคมาเทียบชั้นไฮเอนด์หลายรุ่นในตลาดเลยกับ Padfone S เด่นด้วยดีไซน์เรียบง่าย หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 แรงเร็ว ตอบสนองการใช้งานทุกด้าน รองรับ 4G LTE เพิ่ม microSD ภายนอกสูงสุด 64 GB ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล เทคโนโลยี Pixelmaster เช่นเดียวกับกลุ่ม Zenfone และที่น่าสนใจสุดคือ Tablet Dock ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว เพียงเสียบตัวมือถือลงไป ก็ใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้ทันที แต่ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่มนะครับ ไม่มีแถมในชุดขาย เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการใช้งาน Tablet เป็นส่วนเสริมด้วย
Fonepad 7 (FE375)
มาดูกลุ่มแท็บเล็ตตระกูล Fonepad กันบ้าง ยังคงเป็นอะไรที่คุ้มราคาเช่นเดิม โดยเฉพาะ Fonepad 7 (FE375CG) ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักตัวพอเหมาะ ลำโพงสเตริโอคู่ด้านหน้า สามารถแนบหูโทรคุยเหมือนสมาร์ทโฟน หน้าจอ HD ขนาด 7.0 นิ้ว ขนาดพอดีๆ ครับ ใช้ดูหนังเล่นเกมเต็มตา เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Intel 64-Bit รองรับการอัพเกรดเป็น Lollipop ในอนาคต รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แต่ยังไม่รองรับ 4G LTE แต่อย่างใด กล้องติดมาให้ 5 เมกะพิกเซล ถ่ายภาพขำๆ คุณภาพพอใช้ ราคาไม่แพงครับ ประมาณ 6 พันกว่าบาท
Memopad 7 (ME572CL)
นอกจากตระกูล Fonepad ยังมีกลุ่ม Memopad สำหรับการใช้งานเป็นแท็บเล็ตเต็มตัว (ไม่สามารถโทรออกได้) ซึ่ง Asus มีรุ่นเรือธงออกมาเมื่อไม่นานนี้กับรหัส ME572CL ดีไซน์บางเฉียบ หรูหรามีสไตล์ โดยเฉพาะสีทอง สเปคจัดเต็มครับ หน้าจอ FHD ขนาด 7.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Intel Z3580 (64-Bit) + RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลบน Android 4.4 (Zen UI) ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล ลงแอพพลิเคชั่นเสริมครบเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับ 4G LTE เพิ่มเมโมรี่การ์ดภายนอก microSD ทั้งหมดนี้ราคาไม่ถึงหมื่นบาท !
HTC
Desire 620G
เพิ่งเปิดขายก่อนปลายปีหมาดๆ ได้ข่าวว่าขายดิบขายดีไม่น้อย HTC Desire 620G เด่นด้วยดีไซน์ลงตัว ขนาดไม่ใหญ่มากนัก หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว แสดงผลพอใช้ได้, ชิพประมวลผลระดับ Octa-Core ทำงานลื่นไหลกำลังดี รองรับคอนเทนท์ FHD ทั้งวิดีโอ – เกมกราฟฟิคสูง, รันบน Android 4.4.4 บน Sense UI Lite ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล รองรับ 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย และมีลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า ราคาไม่แพงครับเพียง 6,990 บาท
Desire 820s
กลายเป็นกระแสเลยกับ Desire 820s จัดเต็มคุณสมบัติไม่อั้นทั้งหน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว เหมือนกับ Desire 816 แสดงผลคมชัดทีเดียว ชิพประมวลผล Octa-Core 64 Bit รุ่นแรกของแบรนด์ แรงเร็วทำคะแนน AnTuTu ทะลุ 40,000 พร้อมรองรับ 4G LTE และการใช้งาน 2 ซิมการ์ดในตัวเดียว เพิ่ม microSD ภายนอกได้ ติดกล้องหลัก 13 เมกะพิกเซล และกล้องหน้า 8 เมกะพิกเซล สำหรับ Selfie จัดหนักสุดๆ แถมแบตเตอรี่ยังอึดพอใช้งานเต็มวันอีกด้วย ด้านราคาไม่ถึง 10,000 บาทครับ มีให้เลือกทั้งสีขาว – สีเทาตามใจชอบ
Desire 826
หากต้องการสมาร์ทโฟน Android สเปคแรงขึ้นมาอีกหน่อยจาก HTC ล่าสุดมีรุ่นใหม่เปิดตัวกับ Desire 826 เป็นตัวอัพเกรดจาก Desire 820 ด้วยคุณสมบัติดีขึ้นกว่าเดิม หน้าจอ FHD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 – RAM 2 GB รันบน Android Lollipop รุ่นแรกของแบรนด์ ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า UltraPixel (4MP) มุมกว้างสะใจ รองรับ 4G LTE ใช้งาน 2 ซิมการ์ดได้ ทั้งนี้ราคายังไม่ออกมานะครับ แต่น่าจะถูกกว่า Desire Eye แน่นอน
Desire Eye
ณ วันนี้ไม่น่าจะมีใครติดกล้องหน้าบนมือถือมาโหดเท่า Desire Eye แล้ว (ถ้าไม่นับ OPPO ที่หมุนเลนส์กล้องได้) ด้วยกล้องหน้า 13 เมกะพิกเซล มีออโต้โฟกัสแถมแฟลช LED เรียกว่าถ่าย Selfie ชัดทั้งกลางวัน-กลางวันเลยทีเดียว ด้านสเปคเทียบชั้น Flagship ได้เลยทั้งหน้าจอ FHD ขนาด 5.2 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 รันบน Android 4.4.4 รองรับ 4G LTE และที่น่าสนใจคือสามารถกันน้ำลึกได้สูงสุด 1 เมตร (30 นาที) อีกด้วย ด้วยราคาเปิดตัวประมาณ 15,xxx บาท ไม่แปลกถ้าจะฮิตติดลมบน ก็ของมันดีจริงนะ 😀
One M8 Eye
รุ่นเรือธงของปีก่อน ถึงตอนนี้จะดูเงียบลงไปบ้าง แต่ถูกนำมาขัดสีฉวีวรรณใหม่ กลายเป็น One M8 Eye ภายนอกยังคงเดิมครับ ใช้บอดี้โลหะ Unibody สุดทนทาน ลำโพง Boomsound ดังกระหึ่ม, ชิพประมวลผล Snapdragon 801, รองรับ 4G LTE, หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว ฯลฯ ส่วนกล้องถูกปรับเป็น 13 เมกะพิกเซล แบบเลนส์คู่ เพิ่มความสามารถการโฟกัส บันทึกภาพมากขึ้น กล้องหน้า 5MP ใช้ Selfie ได้สบายๆ เห็นว่าราคาเปิดตัวจะไม่ต่างจากตัวเดิม รอติดตามได้ครับ
Huawei
Ascend Y520
โมเดลเริ่มต้นราคาประหยัดจาก Huawei ดีไซน์ดูดี หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ขนาดพอดีมือ รันระบบ Andrioid 4.4.2 ทำงานรวดเร็ว ชิพประมวลผล Dual-Core 1.2 GHz ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล รองรับ 2 ซิมการ์ด แบตเตอรี่ใช้งานเต็มวันได้สบายๆ รุ่นนี้วางจำหน่ายมาพักนึงแล้ว สามารถเป็นเจ้าของได้ในงบประมาณไม่ถึง 3,000 บาทเท่านั้นเอง
Honor 3C Lite
อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับกลางของ Huawei เป็นรุ่นลดสเปคจาก Honor 3C ปรับดีไซน์ภายนอกเล็กน้อย สำหรับ Honor 3C Lite มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ใหญ่พอดีมือ แสดงผลค่อนข้างคมชัดดำลังดี ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ FHD ได้ นอกจากนี้ยังรองรับ 2 ซิมการ์ด เมโมรี่ภายใน 16 GB ฯลฯ เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ Android ราคากลางๆ สามารถเลือกมาใช้งานได้อีกรุ่นนึงครับ
Ascend G620s
คิดว่าต้องเป็นอีกโมเดลระดับกลางของ Huawei ที่ทุกคนต้องหันมามองเลยกับ Ascend G620s โดดเด่นด้วยหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว บอดี้บางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร ฝาหลังลวดลายคล้ายหนัง ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล รันบน Android 4.4.2 ครอบอินเตอร์เฟส Emotion UI ของ Huawei เอง ด้านชิพประมวลผลใช้ Snapdragon 410 (64-Bit) แรงดีแน่นอนครับ ทั้งหมดนี้สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 5 พันกว่าบาท !
Ascend G7
รุ่นใหม่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไม่นานนี้ Huawei นำเสนอดีไซน์เรียบหรู สวยงามบน Ascend G7 หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) ขอบหน้าจอแคบเป็นพิเศษ มุมมองกว้างเหมาะกับใช้งานด้านมัลติมีเดีย ชิพประมวลผล Snapdragon 410 (64-Bit) รันบน Android 4.4.4 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส Emotion UI ใช้งานง่าย เมนูปรับแต่งไม่ซับซ้อน ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE และแบตเตอรี่สุดอึด 3,000 mAh ด้านราคารอลุ้นช่วงก่อนวันงานครับ ได้ข่าวว่าแค่หมื่นต้นๆ
Honor 6
รุ่นนี้ออกแนวหรูหราเงางาม แต่คุณสมบัติจัดเต็มทีเดียวกับ Honor 6 รองรับ 4G LTE บอดี้บางเฉียบเพียง 7.5 มิลลิเมตร หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด, เมโมรี่ภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ได้, ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล ส่วนชิพประมวลผลใช้ Kirin 920 (Octa-Core) พร้อม RAM 3 GB ลองเล่นจะบอกได้ว่าลื่นจริงๆ มีระบบเสียง Dolby Mobile Plus เสียบหูฟังแล้วจะกระหึ่มมาก แบตเตอรี่ 3,100 mAh เยอะดีครับ อยู่ได้เต็มวันสบายๆ สำหรับราคาอยู่ที่ 13,990 บาท
Ascend Mate 7
เรือธงรุ่นปัจจุบันของ Huawei วางจำหน่ายในบ้านเรามาพักนึงแล้ว ตัวนี้โชว์จุดขายด้านหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.0 นิ้วแบบ(เกือบ)ไร้ขอบ แสดงผลเต็มตาที่สุดเท่าที่เคยมี พร้อมบอดี้โลหะแบบ Unibody ทนทานสวยงาม ด้านสเปคภายในใกล้เคียงกับ Honor 6 ครับ ชิพประมวลผล Octa-Core ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ที่สุดยอดคือแบตเตอรี่ 4,000 mAh สามารถต่อพ่วงชาร์จกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย สำหรับรุ่นนี้มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่นคือ 16 GB / RAM 2 GB และ 32 GB / RAM 3 GB ตัวหลังจะมีเฉพาะสีทองเท่านั้น มีเครื่องจริงให้จับภายในงานจ้า
Mediapad X1
นอกจากสมาร์ทโฟน Huawei ยังมีแท็บเล็ตสเปคดีราคาไม่แพงด้วย Mediapad X1 หน้าจอ FHD ขนาด 7.0 นิ้ว กะทัดรัดน้ำหนักเพียง 239 กรัม ! ถือว่าเบามากสำหรับแท็บเล็ตจอ 7 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core รองรับคอนเทนท์ FHD ทั้งเกม วิดีโอ สตรีมมิ่งออนไลน์, รองรับ 4G LTE ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล นอกจากนี้แบตเตอรี่ภายในยังจัดเต็ม 5,000 mAh ใช้งานได้ 2 วันอย่างน้อย ทั้งหมดนี้สนนราคาประมาณหมื่นต้นๆ เท่านั้นเอง
Lenovo
Vibe X2
วางจำหน่ายเมื่อช่วงก่อนปีใหม่ที่ผ่านมาสำหรับ Vibe X2 สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกับการออกแบบขอบบอดี้โลหะ Tri-Layer 3 สีสัน แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ชัดเจน บอดี้บางเพียง 7.3 มิลลิเมตร ด้านสเปคภายในจัดว่าดีทีเดียวทั้งหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Octa-Core 2.0 GHz + RAM 2 GB, รองรับ 4G LTE, เมโมรี่ภายในจัดเต็ม 32 GB, กล้อง 13 เมกะพิกเซล ฯลฯ เห็นหน้าตาดีแบบนี้ ราคาไม่แพงครับ 12,990 บาทเท่านั้น
Vibe Z2 Pro
รุ่นท็อปจากปีก่อน แม้จะยังไม่วางจำหน่ายในไทย แต่คาดว่าจะได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงในงาน Thailand Mobile Expo 2015 สำหรับ Vibe Z2 Pro โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา วัสดุโลหะแบบ Unibody หน้าจอ 2K ขนาดมหึมา 6.0 นิ้ว แสดงผลเต็มตาเช่นเดียวกับ Ascend Mate 7 ชิพประมวลผล Snapdragon 801 + RAM 3 GB, รองรับ 4G LTE – 2 ซิมการ์ด, กล้อง 16 เมกะพิกเซล ระบบ OIS ป้องกันเลนส์สั่นไหว และเด็ดสุดกับแบตเตอรี่ 4,000 mAh !
Wiko
Wiko Jimmy
น้องใหม่ล่าสุดจาก Wiko พร้อมวางจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 กับราคาประหยัดเพียง 2,990 บาท ได้สเปคหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3GHz ลงแอปพลิเคชั่นเสริมต่างๆ รองรับวิดีโอ HD เต็มรูปแบบ รันบน Android 4.4 กล้อง 5 เมกะพิกเซล ฯลฯ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจครับ หากมีงบประมาณไม่มากนัก
Wiko Highway Sign
เป็นอีกรุ่นของ Wiko ที่มีผู้ใช้งานค่อนข้างเยอะทีเดียวกับโมเดล Highway Sign ด้วยสเปคระดับกลางทั้งหน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว, ชิพประมวลผล Octa-Core 1.4GHz รองรับวิดีโอ FHD ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล พร้อมโหมด Face Beauty เอาใจขา Selfie นอกจากนี้ยังรองรับ 2 ซิมการ์ด และมีบอดี้ให้เลือกหลากสีสัน แน่นอนว่ามีโปรโมชั่นเด็ดๆ รอในงานครับ
Wiko Ridge
แบรนด์มือถือจากฝรั่งเศสซึ่งได้เข้ามาบุกตลาดประเทศไทยตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ได้ส่งสมาร์ทโฟนน้องใหม่มาตะลุยงานมือถือรับต้นปีกับเค้าด้วยเหมือนกัน กับเจ้า Wiko Ridge สมาร์ทโฟน 2ซิม ที่มาพร้อมหน้าจอ HD ขนาด 5 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Octa-Core 1.4 GHz จาก MediaTek จัดเต็มด้วย RAM 2 GB, หน่วยความจำภายใน 16 GB รันระบบปฏิบัติการ Android KitKat (4.4.2) เสริมด้วยกล้องถ่ายภาพความละเอียด 13 ล้าน และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลเอาใจคอเซลฟี่ ที่แม้ว่ายังไม่เปิดราคาอย่างเป็นทางการ แต่ Wiko เค้าก็ยืนยันมาว่าต้องเป็นอะไรที่คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน
Wiko Ridge Fab 4G
หาก Wiko Ridge ยังไม่โดนใจ เราขอแนะนำให้อัพเกรดขึ้นมาเป็นรุ่น Wiko Ridge Fab 4G สมาร์ทโฟนจอใหญ่ 5.5 นิ้ว พร้อมขุมพลัง Qualcomm Snapdragon แบบ Quad-core ความเร็ว 1.2 GHz รองรับอนาคตด้วยสถาปัตยกรรม 64 bit เสริมด้วย RAM 2 GB และหน่วยความจำภายใน 16 GB และดูจากชื่อรุ่นก็น่าจะรู้แล้วว่า Wiko Ridge Fab 4G นั้นรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงในระบบ 4G ด้วยนะคร้าบ
Alcatel
Pixi 3
รุ่นน้องเล็กสุดของ Alcatel เพิ่งเปิดตัวไม่นานนี้ สเปคทั่วไปตามราคาหลักพันกว่าบาทครับ หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Dual-Core รันบน Android 4.4.2 ฟังเพลง วิทยุ ดูวิดีโอ YouTube แถมรองรับ 2 ซิมการ์ดในตัว ลงแอปพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ผ่าน Google Play Store แต่แบตเตอรี่น้อยไปหน่อย (1,150 mAh) ถ้าใช้งานเยอะต้องพึ่งแบตเตอรี่สำรอง เชื่อว่าหลายคนคงมีอยู่แล้ว
Pop 2 4.5
น่าจะได้เห็นวางจำหน่ายในงานนี้ครับ สำหรับ Alcatel Pop 2 หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ราคาประหยัดแต่สเปคแรง ด้วยชิพประมวลผล Quad-Core 64 Bit (Snapdragon 410) รองรับ 4G LTE รันบน Android 4.4.2 ออฟชั่นครบ มีวิทยุ FM แบตเตอรี่ 2,000 mAh ดีไซน์กะทัดรัดพกพาสะดวก คาดว่าราคาเปิดตัวจะอยู่ในช่วง 5-6 พันบาท
OneTouch Flash
รุ่นเด่นราคาดีของ Alcatel วางจำหน่ายในบ้านเราตั้งแต่ปลายปีก่อน ตอนนี้สเปคยังถือว่าดีทีเดียวกับ OneTouch Flash ด้วยราคาประมาณ 6 พันบาท กับหน้าจอ HD ขนาด 5.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Octa-Core 1.4 GHz รันบน Android 4.4.2 เหลือเฟือกับการใช้งานทั่วไปครับ ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ถ่ายวิดีโอ HD และแบตเตอรี่ 3,200 mAh บอกเลยว่าอึดมาก ส่วนจะถูกใจหรือไม่ต้องลองเล่นตัวจริงในงานครับ
Hero 2
แม้จะเปิดตัวตั้งแต่ปลายปีก่อน แต่คาดว่าจะได้เห็นของดีราคาถูกในงานนี้ครับ Alcatel Hero 2 หน้าจอขนาดใหญ่ 6.0 นิ้ว (FHD) แสดงผลเต็มตาสุดๆ รองรับ 4G LTE เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Octa-Core 2.0GHz + RAM 2GB, รันบน Android 4.4.2 ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,100 mAh ถ้างานนี้เปิดราคาไม่ถึงหมื่นบาท รับรองว่าบูมสนั่นชัวร์ !
iMI
iMI Goals
ทางด้านแบรนด์น้องใหม่อย่าง iMI ก็ถือโอกาสเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง iMI Goals เน้นการใช้งานมัลติมีเดียด้วยหน้าจอขนาด ใหญ่ 5 นิ้ว (ความละเอียด qHD) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Quad-Core 1.3 GHz จาก MediaTek พร้อม RAM 1 GB อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มีหน่วยความจำภายในมากถึง 16 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB มีกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 3 ล้านพิกเซล
Doogee
DG700 Titan
มาเปิดตัวในงาน Mobile Expo รอบก่อน คราวนี้ลุยจริงจังแล้วกับแบรนด์ Doogee ส่ง 2 รุ่นใหม่ลงตลาดคือ DG700 Titan และ DG900 สำหรับ DG700 เห็นดีไซน์แล้วต้องว้าว มาแนวบึกบึน วัสดุทนทาน ออกแบบอย่างมีระบบ สเปคหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว (qHD), ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.4.2 กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซลสำหรับใช้ Selfie, รองรับ 3G ทุกเครือข่าย + รองรับ 2 ซิมการ์ดในตัว และแบตเตอรี่ 4,000 mAh น่าสนตรงแบตอึดนี่แหละ
DG900
รุ่นแรงราคาสบายกระเป๋าของ Doogee ดีไซน์ภายนอกสวยงาม วัสดุเมทัลลิคแต่ทนทาน มาพร้อมกับหน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด รองรับการสัมผัสด้านหลัง (Gesture) เพื่อสั่งการฟีเจอร์ต่างๆ, ติดกล้องความละเอียดสูง 18 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 8 เมกะพิกเซล ชิพประมวลผล Octa-Core 1.7 GHz ตอบสนองการใช้งานต่างๆ ได้ดี โดยราคาได้ข่าวว่าไม่แพงครับ ลองสัมผัสตัวจริงภายในงานได้ พร้อมโปรโมชั่นสุดโดนใจ
ZTE
Kis 3
รุ่นเล็กสุดคุ้มจาก ZTE ผมว่าคุ้มกับราคา 1,990 บาท ด้วยสเปคหน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core (Snapdragon 200) รันบน Android 4.4.2 ลงแอปพลิเคชั่นเสริม รองรับเกมกราฟฟิคระดับกลางได้ดี ติดกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ทั้งนี้แบตเตอรี่อาจจะน้อยไปบ้าง (1,400 mAh) แต่ไม่น่าจะมีปัญหาครับ ด้วยราคาไม่ถึง 2 พันบาท จะซื้อเป็นเครื่องสำรองหรือเครื่องหลักก็ไม่เลวจ้า
Apple
iPhone 6 / 6 Plus
ส่วนตัวคงไม่ต้องแนะนำอะไรมากกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เพราะหลายคนคงทราบเรื่องคุณสมบัติต่างๆ กันเป็นอย่างดี ซึ่งภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 รับประกันว่ามีสินค้าพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของทุกสี ความจุ อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับโปรโมชั่นต่างๆ จากตัวแทนจำหน่าย และ Operator 3 ค่ายใหญ่ทั้งผ่อน 0%, ส่วนลดแพ็คเกจต่างๆ หากคุณจะซื้อ iPhone ตอนนี้อาจจะลองไปดูในงานก่อนก็ได้เช่นกัน
AIS
AIS Lava Pro 4.5
สมาร์ทโฟนรุ่นสุดฮิตจาก AIS น่าจะเห็นกันบ่อยๆ บนโฆษณาทีวี รุ่นนี้มีจุดขายเรื่องคุณสมบัติสุดคุ้มในราคาแค่ 3 พันกว่าบาท (และถูกกว่านั้นถ้าสมัครแพ็คเกจรายเดือน) กับหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า Selfie 5 เมกะพิกเซล รันบน Android 4.4.2 และดีไซน์สวยหรู หากคุณใช้งาน AIS กำลังหามือถือใหม่ราคาเบาๆ รุ่นนี้คุ้มเงินจริงๆ ครับ
DTAC
dtac Joey Fit 4.5 Selfie
ฝั่ง dtac ก็มีสมาร์ทโฟน Android ราคาเบาๆ ให้คุณเลือกใช้งานเช่นกันกับ Joey Fit 4.5 Selfie ราคาไม่ถึง 3 พันบาท คุณสมบัติค่อนข้างดีทีเดียวกับหน้าจอ 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Dual-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.4 มีแอพพลิเคชั่น – บริการเสริมจาก dtac ให้เลือกใช้มากมาย ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล + กล้องหน้า 2 เมกะพิกเซล โปรโมชั่นต่างๆ แพ็คเกจรายเดือน-เติมเงินมีให้เลือกครบเครื่อง
TRUEMOVE
True Smart 5.0
ปิดท้ายด้วยสมาร์ทโฟน Android ของค่าย True Move H ดีไซน์สวย เรียบง่าย กับหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ชิพประมวลผล Quad-Core ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล รันบน Android 4.4.2 มีบริการเสริมต่างๆ จาก True Move H มากมายให้เลือกใช้งาน ที่น่าสนใจคือเรื่องแพ็คเกจ ส่วนลดค่าเครื่องครับ เห็นว่าลดกันหนักหน่วงเอาเรื่องเลยทีเดียว