ไมโครชิป เทคโนโลยี อิงค์ (NASDAQ: MCHP) ผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นไมโครคอนโทรลเลอร์, สัญญาณผสม, อนาล็อก และแฟลช-ไอพี ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม JukeBlox(R) รุ่นที่ 4 ซึ่งเปิดทางให้แบรนด์เครื่องเสียงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีความหน่วงต่ำ อาทิ ลำโพงไร้สายที่ใช้งานได้โดยลำพัง (standalone) หรือแบบกระจายเสียงพร้อมกันได้ในหลายๆจุด (multi-room) ตัวรับสัญญาณ AV, ระบบเสียงแบบ Mini System และ Micro System และลำโพงแบบบางเฉียบ (Sound Bar) สำหรับชุดเครื่องมือพัฒนาซอฟท์แวร์ (SDK) ของ JukeBlox รุ่นใหม่จากไมโครชิป ซึ่งพ่วงด้วยโมดูล network media Wi-Fi(R) CY920 จากไมโครชิปและ Bluetooth(R) นั้น หนึ่งชุดประกอบด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi แบบแถบความถี่คู่ที่ล้ำสมัย ฟีเจอร์ MultiZone/multi-room, AirPlay(R) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ DLNA(R) รวมถึงบริการเสียงเพลงที่ผนวกรวมอยู่ใน SDK เพื่อยกระดับประสบการณ์การฟังของผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันลูกเล่นใหม่ๆที่ช่วยประหยัดต้นทุนนั้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ปัจจัยการผลิตลง และทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
โมดูล เน็ทเวิร์ค มีเดีย Wi-Fi(R) CY920 ที่ได้รับการรับรองแล้วและ Bluetooth นั้น ทำงานโดยอาศัยหน่วยประมวลผลเน็ทเวิร์ค มีเดีย Wi-Fi DM920 หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ราคาประหยัดจากไมโครชิป ที่รวม Wi-fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n แบบ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ และ 5 กิกะเฮิรตซ์, USB 2.0 ความเร็วสูง และการเชื่อมต่ออีเธอร์เน็ต สำหรับลำโพงที่ใช้แถบความถี่ 5 กิกะเฮิร์ตซ์จะสามารถหลบเลี่ยงความหนาแน่นของสัญญาณที่พบในแถบความถี่ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ ส่งผลให้อาการเสียงดร็อปน้อยลง และทำให้ใช้ลำโพงได้หลายตัวมากขึ้น ทั้งระบบเสียง multi-room หรือแบบกระจายเสียงในบ้านทั้งหลัง (whole-home)
สำหรับหน่วยประมวลเน็ทเวิร์ค มีเดีย DM920 Wi-Fi ยังมีชิปประมวลผลสัญญาณเสียงดิจิตอลคู่ความเร็ว 300 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งช่วยลดหรือขจัดความจำเป็นในการพึ่งพาชิป DSP ที่สามารถใช้งานแบบเดี่ยวและราคาสูงได้ ในขณะที่ยูสเซอร์อินเทอร์เฟสกราฟฟิค (GUI) สำหรับคอมพิวเตอร์พีซี ช่วยให้ชุดโปรแกรมที่ได้รับการพัฒนาเตรียมไว้ล่วงหน้าของอัลกอริธึม DSP ใช้งานง่าย และยังประกอบด้วย เครื่องมือปรับแต่งความถี่สัญญาณเสียง 15 แถบความถี่ การบีบอัดสัญญาณพิสัยพลวัตแบบหลายความถี่ การปรับตั้งค่าล่วงหน้าสำหรับเครื่องมือปรับแต่งความถี่สัญญาณเสียง และเครื่องมือกรองเสียงที่หลากหลาย ดังนั้น วิศวกรที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ด DPS จึงสามารถใช้ DSP ในการออกแบบได้อย่างง่ายดาย ส่วนวิศวกร DSP ที่ชำนาญแล้วก็สามารถงัดพลังของสถาปัตยกรรม DSP ที่ได้รับมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มศักยภาพ
JukeBlox 4 เปิดทางให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สามารถสตรีมบริการเพลงที่อยู่บนคลาวด์ได้โดยตรง อาทิ Spotify(R) Connect, Qobuz, Rhapsody, Deezer และอื่นๆอีกมากมายขณะที่ใช้งานอุปกรณ์มือถือเป็นรีโมทคอนโทรล จึงสามารถใช้งานอุปกรณ์มือถือ ณ จุดใดก็ได้ภายในเครือข่าย Wi-Fi โดยไม่ทำให้การเล่นเพลงสะดุด และยังเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรีได้อย่างมหาศาล เทคโนโลยี JukeBlox ยังนำเสนอระบบการสนับสนุนแบบข้ามแพลตฟอร์มที่ราบรื่นสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS, Android(TM), Windows(R), และ Mac(R) และมาพร้อมตัวเข้ารหัสเสียงครบชุด และฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย เพื่อทำให้การติดตั้งเครือข่ายง่ายดายขึ้น
นอกจากนี้ SDK ยังนำเสนอฟังก์ชั่นระบบเสียง whole-home (MultiZone/multi-room) ทำให้สตรีมมิ่งเสียงได้ในทันทีและควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม JukeBlox หลายๆเครื่อง การผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ใหม่ๆช่วยพัฒนาเรื่องการประสานเวลาให้ดีขึ้นและลดการใช้แบนด์วิธเครือข่าย เพื่อสร้างประสบการณ์การสตรีมมิ่งเสียงที่ดีเยี่ยม
“ด้วยโมดูลจำนวนกว่า 8 ล้านชิ้นที่ได้มีการจัดส่งจนถึงปัจจุบัน แพลตฟอร์ม JukeBlox ถือเป็นรุ่นบุกเบิกตลาดสตรีมมิ่งเสียงในยุคแรก ขณะที่แบรนด์เครื่องเสียงต่างๆก็ใช้งานแพลตฟอร์มนี้มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆที่มีการเชื่อมต่อเสียงแบบ Wi-Fi” ซูมิท มิทตรา รองประธาน Wireless Solutions Group ของไมโครชิป กล่าวว่า “SDK JukeBlox รุ่นที่ 4 และโมดูลเครือข่าย CY920 ถือเป็นการต่อยอดจากสถานะอันเหนือชั้นของบริษัทในตลาดเสียงไร้สาย ปัจจุบัน บริษัทอยู่ในระหว่างการผลิตและมีกลุ่มลูกค้าที่รอซื้ออยู่แล้ว”
การวางจำหน่าย
SDK JukeBlox รุ่นที่ 4 ซึ่งประกบเป็นชุดกับโมดูล JukeBlox CY920 พร้อมแจกตัวอย่างและพร้อมผลิตแล้ว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อตัวแทนจำหน่าย หรือเข้าชมเว็บไซต์ของไมโครชิปที่ http://www.microchip.com/JukeBlox-Page-120814a