หลังจากที่ทางเว็บไซต์ Flashfly ได้มีการจัดกิจกรรม Workshop Nokia X2 ในวันที่ 16 ส.ค. 2557 ที่ผ่านมาซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับ Nokia X2 ไปทดสอบใช้งานที่บ้าน 7 วันพร้อมกับเขียนบทความรีวิว ซึ่งทางทีมงาน Nokia ได้เลือกบทความจากผู้ร่วมงานทั้งหมด 3 บทความที่เขียนได้โดนใจทีมงานมากที่สุดเพื่อรับรางวัล Nokia X2 ไปครอบครองเป็นเจ้าของกันแบบฟรีๆกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองมาดูกันว่าบทความรีวิวจากผู้ได้รับรางวัลทั้ง 3 ท่านกันเลยดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
บทความรีวิว Nokia X2 โดย คุณ ทวีศักดิ์ สะเมาะยิ
เนื่องด้วยผมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม Workshop Nokia X2 ที่ทาง www.flashfly.net ได้ทำการจัดขึ้นและนั่นก็ทำให้ผมได้มีโอกาสทดลองใช้งาน Nokia X2 และนั่นเองที่เป็นส่วนหนึ่งให้ผมได้จัดทำรีวิว Nokia X2 ตามแบบฉบับของผมขึ้นมา
ผมคิดว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้ทำความรู้จักกับ Nokia X มาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ซึ่งได้ทำการเปิดตัวประมาณต้นปี 2014 ที่ผ่านมาแต่ที่ผมจะนำเสนอนั้นเป็นรุ่นที่ได้พัฒนาต่อมาจากรุ่นแรกโดยจะใช้ชื่อว่า Nokia X2 โดย Nokia X2 ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นจากเดิมมากเลยทีเดียว นั่นแน่!!เริ่มอยากจะเห็นสเปคเครื่องกันแล้วละสิ งั้นเราไปดูกัน
คุณสมบัติเด่นของ Nokia X2 Dual SIM
- หน้าจอ ClearBlack 4.3 “ WVGA
- CPU Cortex A7 dual core 1.2 GHz. /Chipset : Qualcomm Snapdragon 200
- Ram 1 GB.
- กล้องหลัง 5 MP Auto Focus พร้อมด้วย LED Flash
- กล้องหน้า VGA
- Battery 1800 mAh
เมื่อเห็น spec กันแล้วเราจะรออะไรกันอยู่ละไป unbox กันเลย
หน้าตาของกล่องที่บรรจุ Nokia X2 Dual SIM
เปิดออกมาก็จะเจอกับ Nokia X2 Dual SIM
อุปกรณ์ที่อยู่ในกล่องก็จะมี
1.ตัวเครื่อง
2.เครื่องชาร์ตแบตฯ Output : DC 5V. 750mA.
3.หูฟัง
4.คู่มือการใช้งานพร้อมใบรับประกันสินค้า
ทีนี้เรามาดูตัวเครื่องกัน
เมื่อเราถอดฝาหลังมาแล้วเราก็จะเห็นกล้องขนาด 5 MP ถูกจัดวางอยู่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางเครื่องส่วน LED Flash จะถูกออกแบบให้อยู่ด้านบนของตัวกล้องนอกจากนั้นก็จะเห็นว่ามี slot แรก(เรียงจากบนลงล่าง)จะเป็น slot ใส่ SIM2 ต่อมา slot กลางจะเป็น slot สำหรับใส่ micro SD card (รองรับความจุสูงสุด 32 GB.) และslotล่างสุดจะเป็น slot ใส่ SIM1 เกือบลืมบอกไปว่าซิมที่ใช้ต้องเป็น micro SIM นะครับ และถัดจากช่องเสียบ SIM1 ก็จะเป็นลำโพง ซึ่งก็มีความดังอยู่พอสมควรแต่เสียงจะออกแหลมหน่อยนะ(ถ้าใครนึกภาพไม่ออกว่าแหลมแบบไหนก็จะแหลมประมาณปลายของไม้จิ้มฟันนั่นแหละ ไม่ใช่ละ)
Nokia X2 Dual SIM จะมาพร้อมกับ Battery ขนาด 1800 mAh กันเลยทีเดียว
ทีนี้เรามาดูด้านหน้าของ Nokia X2 Dual SIM กันบ้าง จะเห็นได้ว่าการจัดเรียง App ที่หน้าจอ UI จะเป็นแบบ Apps Tiles เหมือน Window 8 OS ส่วนฝาหลังของ Nokia X2 Dual SIM จะเป็นวัสดุที่เรียกว่า Translucent Outer Layer หรือฝาหลังที่เคลือบพื้นผิวแบบใสไว้อีกชั้นหนึ่งทำให้ดูสวยงามมากเลยทีเดียว
คุณสมบัติตัวเครื่อง
ด้านหน้าตัวเครื่อง (เรียงจากซ้ายไปขวา) จะมีลำโพงสนทนาอยู่ตรงกลาง ถัดมาจะเป็น Ambient Light Sensor(ตรวจจับแสงโดยรอบ) และ Proximity Sensor (ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา) สุดท้ายก็จะเป็นกล้องหน้า VGA [640×480]
นอกจากนี้ด้านบนของเครื่องก็จะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 mm. และช่องเสียบสาย Micro USB
ส่วนด้านล่างของเครื่องก็จะมีไมล์สนทนา ปุ่ม Back และปุ่ม Home เท่านั้น ซึ่งการใช้งานปุ่ม Back นอกจากจะใช้เพื่อเป็นการย้อนกลับไปเมนูก่อนหน้าแล้วยังสามารถใช้เป็นปุ่ม Recent App ได้อีกด้วย โดยการกดค้างไว้เพียงเท่านี้ก็จะสามารถสลับการใช้งาน App ที่เราเพิ่งปิดไปได้อย่างง่ายดาย
หน้าจอและรูปแบบการแสดงผล
หน้าจอที่ใช้จะมีขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ WVGA 800×400 (217 ppi) True colour[24bit/16M] แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ Nokia X2 ก็คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลจะเป็นแบบ ClearBlack,LCD ที่จะช่วยให้ใช้งานกลางแดดจ้าได้เป็นอย่างดีและยังประหยัดพลังงานอีกด้วย
ส่วนทางด้านข้างฝั่งขวามือก็จะมีปุ่ม Volume + – กับปุ่ม Power
ทีนี้เราก็มาดู Feature เด่นๆกันบ้าง
Nokia X2 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform 2.0 แต่ที่จริงแล้วพื้นฐานก็มาจากระบบปฏิบัติการ Android 4.3 นั่นเอง โดยทางด้าน UI ของ Nokia X Platform 2.0 แค่หน้า Lock Screen ก็มีฟีเจอร์เด่นให้เราได้เล่นกันแล้วโดยขณะที่หน้าจอดับอยู่นั้นถ้าเราอยากจะเข้าหน้า Lock Screen ก็ให้เคาะ2ครั้งที่หน้าจอ และในขณะอยู่ที่หน้า Lock Screen นั้นถ้าเราแตะหน้าจอลากจากทางด้านขวาไปทางซ้ายก็จะเป็นทางลัดเพื่อเข้าเปิด Camera พร้อมกับสามารถถ่ายรูปได้ทันทีทันใด
ไม่เพียงแค่นั้นเมื่อเราได้ปลด Lock Screen แล้วก็จะเห็นหน้าจอหลัก [Home] ที่มาพร้อมกับ App Tiles ที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดของ Icon ได้และ Icon บางตัวก็ยังสามารถเปลี่ยนสีพื้นหลังได้อีกด้วย
ขณะอยู่ทีหน้า Home ถ้าเราแตะหน้าจอลากจากทางด้านซ้ายไปทางขวาก็จะเป็นการเข้าหน้า Fast Lane ซึ่งหน้านี้จะเป็นหน้าที่รวมแอพที่ใช้ล่าสุดรวมถึงกิจกรรมในปฏิทินที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยทำให้เราสามารถเข้าถึงประวัติการใช้งานแอพและกิจกรรมต่างๆได้อย่างง่ายดาย
ต่อไปจะเป็นการเข้าถึงหน้า App List โดยขณะอยู่ทีหน้า Home ถ้าเราแตะหน้าจอลากจากทางด้านขวาไปทางซ้ายก็จะเป็นการเข้าหน้า App List ที่จะเรียงแอพต่างๆตามลำดับตัวอักษรนอกจากนี้ก็ยังสามาถที่จะพิมพ์ชื่อแอพที่ต้องการเพื่อค้นหาได้อีกเท่านั้นยังไม่พอเราก็ยังที่จะเลือกแอพโปรดของเรานั้นมาวางบนหน้าจอ Home ได้อีกด้วย
การใช้งานปุ่ม Back นอกจากจะใช้เพื่อการย้อนกลับไปเมนูก่อนหน้าแล้วยังสามารถใช้เป็นปุ่ม Recent App ได้อีกด้วย
ทีนี้ก็มาถึงฟังค์ชั่นที่ใครหลายๆคนคงเฝ้ารอยคอ เอ้ย รอคอย นั่นก็คือโหมดการใช้งานกล้องนั่นเอง เมื่อเราเปิดโหมดกล้องของ Nokia X2 จะเห็นว่าโหมดกล้องจะใช้งานได้ 3 แบบ คือ 1.การถ่ายภาพนิ่ง (สลับกล้องหน้า-หลังได้) 2.การถ่ายวีดีโอ 3.การถ่าย selfie
โหมดการถ่าย selfie นั้นจะถูกบังคับให้ถ่ายจากกล้องหลัง เพื่อความคมชัดของภาพ ส่วนการกดชัตเตอร์นั้นเราสามารถแตะที่หน้าจอส่วนไหนก็ได้ ชัตเตอร์จะทำงานได้ทันที พอมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มงงกันแล้วว่าให้ใช้กล้องหลังถ่ายแล้วจะถ่ายรูปได้ยังไงละ? ไม่หลุดกรอบเหรอ?
แน่นอนคำถามนี้มีคำตอบก็คือในขณะที่เรา selfie อยู่นั้น จะมีเสียงคอยเตือนให้เรารู้ว่าตอนนี้หน้าของเราอยู่ในกรอบหรือว่านอกกรอบ
สำหรับคุณภาพของกล้องก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่งนะครับไม่ได้ถึงขึ้นที่จะถ่ายออกมาได้ดีมากมายนักยิ่งถ้าแสงน้อยด้วยแล้ว
ตัวอย่างภาพจากกล้อง Nokia X2
โหมดกลางคืน
ตัวอย่างวีดีโอ
ต่อไปผมจะพาไปดูกับฟังค์ชั่นของ Nokia X2 Dual SIM ที่เหมาะกับคนเดินทางมากและผมก็แอบชอบฟังค์ชั่นนี้อยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ Here Map นั่นเอง จะว่าไป Nokia ก็ทำ Here Map ออกมาได้ดีทีเดียว สามารถดูแผนที่โดยรอบ,ดูการจราจร,มุมมองแบบดาวเทียม,มุมมอง 3D และที่สำคัญสามารถใช้เป็นอุปกรณ์นำทางได้อีกด้วย
มาดูด้าน Graphics เอาใจคอเกมส์แอนดรอยด์กันบ้าง
เริ่มด้วย Dead Space
ต่อด้วย Asphalt 8 : Airborne
จากการที่ลองทดสอบทั้งสองเกมส์นี้พบว่า Nokia X2 ก็สามารถเล่นเกมส์ 3D ได้อย่างสบายๆ แล้วที่สำคัญก็ยังเรนเดอร์ภาพออกมาได้ดีและก็ลื่นไหลมากอีกด้วย แต่ด้วยหน่วยความจำภายในที่น้อยไปหน่อยถ้าจะเล่นเกมส์แนวนี้ผมคิดว่าคงจะติดตั้งได้แค่ทีละเกมส์เท่านั้น ถ้าสองเกมส์นี้เล่นได้ก็คงไม่ต้องถามถึงเกมส์ Cookie Run หรือว่าเกมส์เศรษฐีแล้วนะครับว่าจะเล่นได้มั้ย
มาลองเทส Antutu กันบ้างดีกว่า
หลายคนคงกำลังคิดกันอยู่ในใจละว่า Nokia X2 ใช้งานได้หลากหลายขนาดนี้แล้วแบตละ จะเปลืองไหม?จะอยู่ได้ถึงวันหรือปล่าว? งั้นเราลองไปดูกัน
จากภาพที่ผมให้ดูนี้เป็นการใช้งานแค่เบาๆนะ ไม่ได้ใช้งานมากนัก เล่นเกมส์นิดหน่อย
Rom มีเหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 2 GB.
นอกจากตัวระบบปฏิบัติการแล้ว Nokia X2 ยังมาพร้อมกับบริการต่างๆของ Microsoft เช่น One Drive มาพร้อมกับพื้นที่ขนาด 15 GB.,Here Maps,Nokia Mix Radio,Nokia Store ซึ่งเป็นร้านค้าสำหรับการดาวน์โหลด Apps ที่ทาง Microsoft เตรียมไว้ให้ ส่วนการดาวน์โหลด Apps ต่างๆเพิ่มเติมจากนี้นั้นก็สามารถดาวน์โหลดได้อีกจากหลาย ๆ Store เช่น 1 Mobile Market,Aptoide,SlideMe,Mobango และ Yandex
ข้อดี
- การดีไซน์สวยสีสันสะดุดตา
- CPUแรงชึ้นทำให้การใช้งานก็ถือว่ารวดเร็วและลื่นไหลได้เป็นอย่างดี
- มี service จาก Microsoft และ Nokia ให้ใช้เช่น Nokia Store,Onedrive,Here Maps,Nokia Mix Radio
- กล้องมีโหมด selfie ที่สามารถใช้กล้องหลังถ่ายได้
- ปลดล็อคหน้าจอได้รวดเร็วโดยการเคาะสองครั้งบนหน้าจอ
- มีการแยกหน้าของ Notification กับการตั้งค่าออกจากกันทำให้เหมาะกับการใช้งานด้วยมือเดียวมากขึ้น
- แบตฯอึดพอสมควร ใช้งานได้พ้นวันแน่นอน
ข้อเสีย
- ความจุในตัวเครื่องน้อยไปหน่อยเหลือใช้งานจริงแค่ประมาณ 2 GB.
- เสียงลำโพงในตัวเครื่องจะดังแหลมหน่อยไม่ค่อยมีเสียงทุ้ม
- กล้องอาจจะไม่เทพมากนักแต่ก็ถือว่าดีใช้ได้พอสมควร
- ไม่มีสาย USB แยกมาให้
ข้อมูลเพิ่มเติม www.nokia.co.th/nokiax2
บทความรีวิว Nokia X2 โดย คุณ ศรัณย์ สุจริตพานิช
Nokia X2 Review ( ชมคลิปรีวิวได้ที่ด้านล่าง )
Design – Nokia X2 เป็นเจเนอเรชั่นที่สองในไทยต่อจากรุ่นพี่อย่าง Nokia X,XL ซึ่งใครได้เห็นแวบแรกก็ต้องสะดุดตากับฝาหลังแบบใหม่ที่เป็นพลาสติกสองชั้น
อีกทั้งยีงมีถึง 4 สีให้เลือกทำให้ดูมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกทั้งผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนฝาหลังได้ตามใจชอบ และด้วยความที่ฝาหลังนั้นครอบตัวเครื่องเกือบทั้งหมดยกเว้นหน้าจอ ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดอะไรกับโทรศัพท์เพราะคุณสามารถซื้อฝาหลังเปลี่ยนได้ในราคาเพียงสองร้อยกว่าบาทเท่านั้นที่ Nokia Shop
Software – ด้วย Nokia X Platform นั้น ทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากข้อดีทั้งจากฝั่ง Android และ Windows Phone
โดยหน้าตาของ UI ต่างๆในเครื่องนั้นน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีสำหรับคนที่เคยใช้ Windows Phone มาก่อน ซึ่งหน้าหลักของ Nokia X นั้นมีสามหน้าด้วยกันคือ
หน้า home ที่ใช้สำหรับวาง App Tiles เพื่อเข้าถึงแอพต่างๆได้อย่างสะดวก, หน้า Fastlane ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้แอพพลิเคชั่นล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว และหน้าจอ
App List ที่รวมแอพพลิเคชั่นทั้งหมดบนตัวเครื่องไว้ที่นี่โดยผู้ใช้สามารถเลือกแอพที่จะใช้งานตามตัวอีกษรได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้น Nokia X ยังมีแถบ
notification ที่สามารถลากจากด้านบนของหน้าจอเพื่อเข้าไปดูการแจ้งเตือนต่างๆบนตัวเครื่องและ Quick Settings ที่ทำให้การเปิดปิด Wifi, bluetooth
หรือปรับแสงของหน้าจอได้ง่ายๆ ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในฝั่งของ software ก็คือแอพพลิเคชั่นจากทาง Nokia และ Microsoft ที่ทำให้ผู้ใช้ใช้งานเครื่องได้
เต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็น OneDrive ซึ่งใช้เก็บข้อมูลต่างๆบนคลาวด์, OneNote ที่ใช้เป็นสมุดจดบันทึกต่างๆและเก็บข้อมูลไว้บน OneDrive โดยอัตโนมัติ, Here Drive และ Here Maps ที่ช่วยในการนำทางและยังสามารถดาวน์โหลดแผนที่มใช้งานแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี MixRadio ที่ทำให้ผู้ใช้มีสถานีเพลงโปรดที่สามารถเลือกได้ตามที่ผู้ใช้ชื่นชอบ และแอพพลิเคชั่น Android อีกนับแสนที่ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดได้จาก Nokia Store หรือ 1 Mobile Market
Hardware – ในส่วนของตัวเครื่องนั้นใช้ CPU Snapdragon 200 dual-core 1.2 Ghz พร้อม Ram 1GB โดยสเปคที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อน
ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลมากกว่าเดิมค่อนข้างมาก หน้าจอแบบ ClearBlack ขนาด 4.3 นิ้ว ก็สามารถใช้ในที่แสงจ้าได้สบายๆ แบตเตอรี่ขนาด 1800 มิลลิแอมป์ซึ่งอาจจะน้อยไปซักหน่อยแต่ถ้าไม่ได้ใช้งานมากก็สามารถใช้งานได้ทั้งวัน
Camera – กล้องหลังของ Nokia X2 มีขนาด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งทำได้ค่อนข้างดีในจุดที่มีแสงปกติและแสงมาก ส่วนข้อเสียก็คือการถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย การจัดการกับ
noise บน Nokia X2 นั้นทำได้ไม่ค่อยดีนัก เช่นเดียวกับการถ่ายวิดีโอ แต่เมื่อเทียบกับราคาเพียง 4,690 บาทแล้วต้องถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับมือถือที่ราคาใกล้เคียงกัน
บทความรีวิว Nokia X2 โดย คุณ พงศกร เขมานิฏฐาไท
รีวิวสั้นๆ กับมือถือโนเกียที่คุ้มค่าราคาและใช้ง่ายที่สุด Nokia X2
พอดีผมได้เป็นผู้โชคดีที่ได้ทดลองใช้ Nokia X2 จากทาง Flashfly.net ทำให้ผมตื่นเต้นๆมากๆ เพราะอะไรหรอครับ? เมื่อผมได้ยินข่าวโนเกียมีระบบปฏิบัติการณ์ Android ทำให้ผมถึงกับหูผึ่งเลยทีเดียว และยิ่งดีใจสุดๆเมื่อได้ทดลองใช้จริงในชีวิตประจำวัน
Nokia X2 ตัวนี้ปรับปรุงจากตัวแรก ทำให้มีความเสถียรเพิ่มขึ้นและเร็วแรงมากขึ้น บวกสีสันที่จิ๊ดจ๊าดมาก แตกต่างจากเครื่องมือถือยี่ห้ออื่นอย่างชัดเจน แถมหน้าจอยังใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว พกพาได้สะดวก ฝาหลังยังมีขอบใสๆเท่ๆที่เรียกว่า Translucent Outer Layer แถมยังเป็นรอยได้ยาก และยังใส่ได้ถึง 2 ซิม และแบตเตอรี่ยังอึด ใช้งานได้ 2 วันแบบสบายๆไม่อึดอัด
หลังจากใช้งานมาได้เกือบ 1 สัปดาห์ ก็ขอสรุปตามนี้นะครับ
1.หน้าเมนู จัดเรียงหน้าตาได้ง่าย และยังจัดหน้าตาให้เข้ากับความเป็นตัวเราได้อีกด้วย บวกกับมีหน้าจอที่ชื่อว่า Fastlane ทำให้เปิดแอปที่ใช้งานล่าสุดได้ง่ายกว่าเดิมเห็นๆ
2.กล้องมือถือให้มาถึง 2 ตัว กล้องหลัง 5 ล้าน ถ่ายวีดิโอได้ถ่าย HD 720p และมีไฟแฟลชมาด้วย ส่วนกล้องหน้า VGA แถมกล้องหลังสามารถ selfie ง่ายๆด้วยการเลือกฟังก์ชั่นถ่ายหน้าด้วยกล้องหลัง เมื่อตัวกล้องเจอหน้าของเรามันก็จะมีเสียง แล้วเราแค่กดหน้าจอ ก็ได้รูปสวยๆมาให้แล้ว แถมยังเอาไปเข้าแอปแต่งรูปให้มุ๊งมิ๊งๆได้อีกเยอะ
3.มีแอปพลิเคชั่นก็มากมายกว่าแสนๆตัว เพราะมาจาก Android จึงลงแอปได้ทั้งใน Store ของโนเกียเอง หรือจาก Store 1Mobile Market ซึ่งก็มีแอปที่ครอบคลุมมากๆ หรือจะโหลดไฟล์ apk มาติดตั้งก็ได้ไม่ว่ากัน
4.สามารถปลดล็อกหน้าจอด้วยการเคาะหน้าจอ 2 ครั้ง ก็ปลดล็อกได้แล้ว ลูกเล่นเทียบเท่ากับรุ่นพี่เลยทีเดียว
5.แผนที่ชื่อ Here Maps ที่สามารถทำง่ายได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้ประหยัดแบตและค่าเน็ตได้มาก ตัวแผนที่ยังทำทางเป็นแบบ 3D ทำให้ไม่งงไม่หลงจะหว่างเดินทางแน่ แถมยังแสดงแผนที่อาคารเป็น 3 มิติ เท่ฝุดๆ
6.หน้าจอ ClearBlack Display ที่เล่นกลางแดดได้แจ่ม สู้แสงได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นมาก ไม่ต้องเอามือมาบังหน้าจอ เอาให้แดดส่องก็ยังชัดแจ๋ว และยังกันรอย แทบไม่ต้องติดฟิล์มกันรอยเลยครับ
7.แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานมาก ถึงจะเล่นเกมก็ยังอยู่ได้นาน สมคำร่ำลือจริงๆ
8.สำหรับคอเพลง ยังฟังเพลงฟรีได้ผ่านแอป MixRadio ที่มีเพลงมากกว่า 30 ล้านเพลง และยังโหลดเข้าเครื่องมาฟังทีหลังได้ด้วย ทั้งหมดนี้ “ฟรี” นะครับ
9.เวลาหยิบมือถือมาดูเวลา ไม่ต้องมาคอยกดปุ่มทุกครั้ง แค่เอามันออกมาจากกระเป๋า หน้าจอก็แสดงเวลาและการแจ้งเตือนต่างๆให้พร้อม ด้วยเทคโนโลยี Nokia Glance Screen
10.มี Onedrive ที่สามารถเก็บข้อมูลเช่นภาพ เอกสาร ไว้บนอินเทอร์เน็ต และยังได้เพิ่มฟรีถึง 15GB !
11.ดูวีดิโอได้ถึง 1080p โดยไม่มีกระตุกให้เห็นกันเลยทีเดียว
12.ใช้หน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core และ RAM มาให้ 1GB ทำให้เล่นเกมจำพวกเกมเศรษฐีได้อย่างไม่มีสะดุด ถอยลูกเต๋าได้อย่างมั่นใจ
ทั้งหมดนี้สามารถหาเป็นเจ้าของได้ในราคา 4,690 บาท เท่านั้น! เมื่อเท่ากับความคุ้มค่า ฟังก์ชั่นพิเศษมากมาย และยังใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยนั้น มันคุ้มจริงๆครับ แถมยังมีให้เลือกถึง 4 สี คือ สีเขียว สีส้ม สีดำ และสีขาว เห็นแบบนี้ก็รีบไปจับจองที่ร้านมือถือใกล้บ้านท่านได้เลยนะครับ ขอขอบคุณทาง Nokia Thailand และ flashfly.net ที่ให้เครื่องมาทดสอบจริงนะที่นี้ด้วยนะครับ