หลังจากที่มีข่าวลือมานานหลายปีกับอุปกรณ์สวมใส่จาก Apple ที่คาดว่าจะใช้ชื่อ iWatch และในวันที่ 9 กันยายน 2014 นี้ทาง Apple ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่ออกแบบมาเพื่อสวมใส่ที่มีชื่อทางการว่า Apple Watch มีตัวเรือนให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 38 มม. และ 42 มม.แบ่งออกเป็น 3 คอลเลกชั่นดังต่อไปนี้
- APPLE WATCH ตัวเรือนสแตนเลสสตีล หรือ สแตนเลสสตีลสีดำสเปซแบล็ค จอภาพผลึกแซฟไฟร์ พร้อมสายสวยงามหลากหลายสไตล์สายมีให้เลือก 3 แบบ คือแบบ Link Bracelet, Milanese Loop และสายที่ทำจากยาง Fluoroelastomer คุณภาพสูง
- APPLE WATCH SPORT ตัวเรือนอะลูมิเนียมขนาดชุบผิว สีเงินหรือ สีเทาสเปซเกรย์ จอภาพกระจก Ion-X อันแข็งแกร่ง พร้อมสายที่ทนทานและมีสีสันสดใส
- APPLE WATCH Edition ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต สีเยลโลว์โกลด์ หรือสีโรสโกลด์ จอภาพผลึกแซฟไฟร์ พร้อมสายและตัวล็อคที่งามประณีต
สำหรับการใช้งาน APPLE WATCH นั้นควบคุมผ่านเม็ดมะยมที่ด้านขวาตัวเรือนมีชื่อว่า ดิจิตอลคราวน์ ที่ใช้ในการซูม เลื่อน และเลือกได้โดยที่ มือจะไม่เข้ามาบังหน้าจอ
และเพียงกดปุ่มที่อยู่ใต้ปุ่มดิจิตอลคราวน์ จะเป็นการเรียกใช้งานเปิดใช้งานคุณสมบัติเพื่อนที่จะแสดงรูปเล็กๆ ของคนที่คุยด้วยบ่อยที่สุด สามารถส่งข้อความหรือโทรหาได้ทันทีเพราะมีลำโพงและไมโครโฟนอยู่ในตัว
โดย Apple ได้สร้าง Watch OS ขึ้นมาใหม่เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานบนข้อมือโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นหน้าจอโฮมที่ให้ค้นหาแอพที่ใช้บ่อยได้อย่างรวดเร็ว ฟอนต์ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้อ่านง่ายในระยะหนึ่งช่วงแขน หรือจอภาพ Retina ที่รับรู้แรงกด
Apple Watch มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ควบคู่ไปกับ iPhone เพื่อรักษาความแม่นยำของเวลาให้อยู่ในช่วงไม่เกิน 50 มิลลิวินาทีของเวลามาตรฐานโลก และยังสามารถปรับเวลาให้ตรงกับเวลาท้องถิ่นได้โดยอัตโนมัติเมื่อเดินทาง
ที่หน้าจอของ Apple Watch สามารถใช้นิ้ววาดอะไรต่างๆได้โดยที่อีกฝั่งก็สามารถดูการเคลื่อนไหวของสิ่งที่กำลังวาด แถมยังวาดตอบกลับมาได้อีกด้วย หรือใช้การแตะที่หน้าจอเพื่อให้เพื่อนๆหรือคนรักรู้ว่ากำลังคิดถึงโดย Apple ได้เพิ่มชิ้นส่วนที่ให้ความรู้สึกได้ลงไปด้วยเพื่อใช้ในการแจ้งเตือนบน APPLE WATCH โดยจะมีการสะกิดเบาๆมีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามประเภทของการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความส่งเข้ามา
การวัดการเต้นของหัวใจให้ใช้สองนิ้วกดลงบนหน้าจอ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจจะบันทึกจังหวะการเต้นของหัวใจแล้วส่งให้คนที่ต้องการ เป็นวิธีที่ทั้งง่ายในการบอกความรู้สึกถึงใครซักคน
ด้านสุขภาพและฟิตเนส Apple Watch ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมกิจกรรมของร่างกายได้ตลอดทั้งวัน เพราะไม่ได้วัดแค่ ปริมาณการเคลื่อนไหว เช่น จำนวนก้าวที่เดิน แต่ยังวัดคุณภาพและความถี่ในการเคลื่อนไหวด้วย โดยวงแหวน 3 วงของแอพ Activity จะแสดงให้เห็นง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีแอพ Workout สำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอโดยเฉพาะอีกด้วย
การชาร์จ Apple Watch นั้น Apple ได้ผสมผสานเทคโนโลยี MagSafe เข้ากับการชาร์จแบบเหนี่ยวนำ เพียงแค่ถือหัวต่อไว้ใกล้ๆด้านหลังของนาฬิกาแล้วแม่เหล็กก็จะดูดให้ติดเข้าที่โดยอัตโนมัติให้เอง
Apple มีแผนวางจำหน่าย Apple Watch ในช่วงต้นปี 2015 ในราคาเริ่มต้นที่ 349$ หรือราวๆ 11,200 บาท รองรับการใช้งานกับ iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPhone 6 และ iPhone 6 Plus